กรณีศึกษา น้ำปัสสาวะหยอดตา น้ำปัสสาวะรักษาโรค ดังไปทั่วไทย

เป็นเรื่องที่เป็นกระแสต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ คือการใช้น้ำปัสสาวะบำบัดรักษาโรคและอาการเจ็บป่วย บาดแผลต่าง ๆ ซึ่งก็มีผู้ที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เหตุต้นเรื่องของคราวนี้คือก๋วยเตี๋ยวที่ใส่น้ำปัสสาวะแล้วคนกินหายปวดเมื่อย กระแสยังดำเนินต่อมาจนถึงกรณีศึกษาของคุณใจถึงพุทธ เสียงแจ่ม ที่เป็นจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม และได้ทดลองใช้น้ำปัสสาวะ หรือฉี่ในการรักษาอาการไม่สบายของดวงตา

เนื้อหาเดิมที่คุณใจถึงพุทธเล่าเอาไว้ จะมีดังนี้

สวัสดีครับผมใจถึงพุทธ เสียงแจ่ม เป็นจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม อยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เป็นคนชอบปฏิบัติธรรม การนั่งสมาธิ เผอิญได้มาเจอะรุ่นพี่จิตอาสาแพทย์วิถีธรรมในงานเลี้ยง ได้คุยธรรมะกัน และด้วยความที่กินเจมาก่อนหน้านี้ 6 เดือน

พี่จิตอาสาแนะนำให้ลองดื่มน้ำปัสสาวะดู เพื่อแก้อาการปวดเมื่อยตัว เมื่อกลับไปบ้านเลยตัดสินใจทดลองดื่มน้ำปัสสาวะ ตอนแรกที่ดื่มน้ำปัสสาวะ มีรสเค็มมาก เพราะกินอาหารเจ รสจัด หลังจากนั้นเลยตัดสินใจไปค่ายสุขภาพของหมอเขียว ที่สวนป่านาบุญ1 อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร และได้มีโอกาสเข้ากลุ่มโรคต่างๆ พี่จิตอาสาในกลุ่มได้แนะนำให้ใช้น้ำปัสสาวะล้างจมูก แก้ไซนัส หยอดหูตาและอาบน้ำ ทุกวันนี้เมื่อตอนเช้าขึ้นมาก็จะใช้หยอดตา หยอดหูในตอนเช้า ดื่มและอาบน้ำ โดยการใช้น้ำปัสสาวะกับดวงตา จะปัสสาวะใส่ขวด ทิ้งค้างไว้หนึ่งคืนแล้วตอนเช้า นำเอามากรอกตาไปมา รู้สึกเย็นสบาย ตาโล่งดี

ผลที่ได้คือ ตาจะมองชัดมากเลย แต่สำหรับคนใหม่ อาจจะใช้น้ำปัสสาวะที่สดใหม่ ไม่ต้องหมักค้างคืน ใช้แบบสดๆ หยอดตาได้เลย โดยกรอกตาไปมาเพื่อบริหารกล้ามเนื้อตา

มีอยู่ครั้งหนึ่ง โดนหมากัดที่ขาขวาเขี้ยวจม เลือดออกมาก ก็ตัดสินใจไม่ไปหาหมอ แต่ใช้น้ำปัสสาวะที่หมักไว้ ล้างแผลสด แผลก็หายเร็วและไม่เป็นแผลเป็นแต่อย่างใด ปัจจุบันใช้น้ำปัสสาวะเป็นประจำทุกวันและได้หมักเก็บน้ำปัสสาวะเป็นขวดๆไว้ที่บ้านจำนวนมากเพื่อเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

จะเห็นได้ว่า คุณใจถึงพุทธได้ทดลองใช้น้ำปัสสาวะบำบัดกับตนเองโดยใช้รักษาอาการไม่สบาย ๆ หลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะการหยอดตาและรักษาแผล ก็พบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก จนถึงขนาดต้องเก็บน้ำปัสสาวะติดบ้านไว้ใช้นั่นเอง ซึ่งบทความของคุณใจถึงพุทธ ก็ได้เผยแพร่มานานแล้ว จนกระทั่งเกิดกระแสในสังคมเกี่ยวกับการใช้น้ำปัสสาวะบำบัดโรค กรณีศึกษาคุณใจถึงพุทธจึงถูกหยิบยกมาวิจารณ์อย่างกว้างขวาง เว็บไซต์ใหญ่น้อยต่างก็ได้ข้อมูลที่คุณใจถึงพุทธได้เผยแพร่ไว้ ไปใช้ประโยชน์ในการทำสื่อ และที่สุดของการเผยแพร่ คือประชาชนทุกคนจะได้พิจารณาและเรียนรู้ประโยชน์และการใช้น้ำปัสสาวะบำบัดรักษาโรค

การใช้น้ำปัสสาวะบำบัดไม่ใช่ความรู้ใหม่ แต่เป็นความรู้ดั้งเดิมที่มีการพิสูจน์และมีการใช้มาอย่างยาวนานกว่า 2500 ปี แล้ว ซึ่งในปัจจุบัน ก็ยังมีลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ที่ยังทำตามคำสอน ยังใช้สิ่งที่ประหยัด เรียบง่าย ไม่มีโทษ ในการรักษาตนเองและผู้อื่นอยู่ แม้ว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ก็เป็นเรื่องธรรมดาในโลก เพราะคนมีการรับรู้ต่างกัน มีประสบการณ์ต่างกัน มีวิบากรรมที่แตกต่างกันไปตามวาระ

ในตอนนี้เราจะมาชมกระแสของการใชน้ำปัสสาวะหยอดตา หรือการใช้น้ำปัสสาวะบำบัดอาการเจ็บป่วยที่ได้แพร่หลายไปในโลกโซเชียลในปัจจุบันกัน

จากรายการทุบโต๊ะข่าว ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ Amarin TV เปิดประสบการณ์ตรง ผู้กินฉี่นับสิบปี หมอฟันก็ลองแล้ว อึ้งกรอกปากวัวควายก็ฟื้นไข้ ในนี้จะมีบทสัมภาษณ์คุณใจถึงพุทธด้วยครับ

กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับกระแสร้อนแรงในโซเชียลที่มีการนำปัสสาวะมาดื่มหรือล้างตา โดยอ้างสามารถรักษาอาการป่วย บาดเจ็บได้ แม้หมอแล็บแพนด้า ออกมาต้าน ชี้แร่ธาตุในปัสสาวะที่เป็นประโยชน์เพียงน้อยนิดเท่านั้นเทียบอาหารคำเดียวที่เรากินไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ทาง ประธานจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม ยืนยัน การดื่มปัสสาวะสามารถรักษาโรคร้ายได้จริง( Thairath)

โลกโซเชียลแห่แชร์เรื่องราวอาสาสมัคร ทดลองใช้น้ำปัสสาวะหยอดตา ล้างจมูก และล้างแผลสด ตามความเชื่อว่า เป็นยารักษาโรคชั้นดี ( ข่าวช่อง 8 )

ข่าวจาก kapook  หนุ่มเล่าประสบการณ์ดื่มน้ำปัสสาวะ พร้อมนำมาหยอดตา รักษาแผล ชี้ ได้ผลดี ด้านแพทย์ เผย เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ ถือเป็นสิทธิของคนไข้

ข่าวจาก kcivit.com หนุ่มใหญ่ โพสต์ดื่มน้ำปัสสาวะ หยอดตา อาบน้ำ เชื่อเป็นยาดีที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

ข่าวจาก thethaiger.com โผล่อีก! หนุ่มใหญ่เชื่อฉี่เป็นยาดี ทั้งดื่ม อาบ หยอดตา ล้างแผล

ข่าวจาก  teenee.com เเห่เเชร์! หนุ่มใหญ่ กรอกน้ำปัสสาวะใส่ขวด ล้างเเผล – หยอดตา เชื่อเป็นยาดี รักษาโรค

 

อ้างอิงต้นฉบับ : ชมรมภูมิปัญญาน้ำปัสสาวะบำบัด

การที่เราได้รวบรวมข้อมูลมานี้ ไม่ได้มุ่งหมายจะต้องเอาชนะกันด้วยเหตุผล แต่เป็นการนำเสนอความรู้ในหลาย ๆ มุม ทั้งมุมที่เห็นด้วยและมุมที่เห็นต่าง ให้ทุกท่านได้พิจารณาเอาเองว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งใดเป็นโทษ สิ่งใดควรอาศัย สิ่งใดควรละเว้น ไปตามสมควร ซึ่งสถาบันวิชชารามยังมีงานวิจัยที่เก็บข้อมูลในเมืองไทย สำหรับการใช้น้ำปัสสาวะบำบัด ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ใน งานวิจัย น้ำปัสสาวะบำบัด