เหตุที่น้ำปัสสาวะเป็นยา
เหตุที่น้ำปัสสาวะเป็นยา
แท้จริงแล้วเขาเป็นยาอยู่สองอัน
เหตที่เขาเป็นยา มีสองอัน
หนึ่ง….
ตัวเขาเองมีสารและตัวพลังงานที่เป็นยา
นี่คือข้อที่หนึ่งนะ
ข้อที่สอง…
คนที่กล้ากินกล้าใช้น้ำปัสสาวะนั้น
คือคนที่กล้าทำลายความรังเกียจในน้ำปัสสาวะ
ความรังเกียจเขาเรียกว่า”อัตตา”
ความไม่ชอบความผลักเขา เรียกว่า”อัตตา”
ปกติตัวรังเกียจในน้ำปัสสาวะ
มันเป็นกิเลส มันเป็นมาร
มันจะดูดพลังเราไป
ไปเยี่ยว (ปัสสาวะ) ทุกวัน
ก็รังเกียจทุกวันนั่นแหละ
โดนเราหน่อยนึงก็ไม่ได้ โอ้ยโอ้ย..
รังเกียจทุกวันนั่นแหละ
รังเกียจไปหมดนั่นแหละ
พอรังเกียจเราก็เสียพลังแล้วนะ
พลังชีวิตเราต้องผลิตพลังงานให้ตัวรังเกียจ
ความรู้สึกรังเกียจมันเลี้ยงตัวเองไม่ได้
มันกินพลังจากเรา
รังเกียจยังเป็นทุกข์อยู่
ต้องไม่รังเกียจ
ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2558
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
สารต่างๆ ในน้ำปัสสาวะ
โดยปกติคนจะกลั่นปัสสาวะออกมาประมาณ 750 – 1,500 ซีซี ต่อวัน ขึ้นอยู่กับว่าคนนั้นดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหน คนที่กินของเผ็ดหรือทอดจะกระหายน้ำมากกว่าคนปกติ หรือในฤดูหนาวอากาศเย็นน้ำปัสสาวะจะมีมากกว่าฤดูร้อนอากาศร้อนเพราะไม่เสียเหงื่อทางผิวหนัง รสของปัสสาวะจะมีรสเค็มๆ ถ้าปัสสาวะเข้มจะมีรสขมนิดๆ ในน้ำปัสสาวะมีอะไรดี มาดูกัน
ดร.ฟารอน นักชีวเคมีได้วิจัยสารต่างๆ ในปัสสาวะพบว่า 95% เป็นน้ำ 2.5 % เป็นยูเรีย อีก 2.5% เป็นสารอื่นๆ ถ้าแยกส่วนประกอบที่เป็นมิลลิกรัมออกมาในน้ำปัสสาวะ 100 ซีซี(ลูกบาศก์เซนติมเตร)จะพบว่ามี
1. Urea Nitrogen ปริมาณ 682.00 มิลลิกรัม
2. Urea ปริมาณ 1,459.00 มิลลิกรัม เป็นสารขับปัสสาวะ สารต้านอักเสบ ต้านไวรัส แบคทีเรีย ผิวหนังอ่อนเยาว์ ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินอาหารขณะที่ดิ่มน้ำปัสสาวะเข้าไป
3. Creatinin Nitrogen ปริมาณ 36.00 มิลลิกรัม
4. Creatinin ปริมาณ 97.00 มิลลิกรัม
5. Uric acid nitrogen ปริมาณ 12.30 มิลลิกรัม
6. Uric acid ปริมาณ 36.90 มิลลิกรัม เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง
7. Amino nitrogen ปริมาณ 9.70 มิลลิกรัม
8. Ammonia nit. ปริมาณ 57 มิลลิกรัม
9. Sodium ปริมาณ 212.00 มิลลิกรัม
10. Potassium ปริมาณ 137.00 มิลลิกรัม
11. Calcium ปริมาณ 19.50 มิลลิกรัม
12. Magnesium ปริมาณ 11.30 มิลลิกรัม
13. Chloride ปริมาณ 314.00 มิลลิกรัม
14. Total sulphate ปริมาณ 91.00 มิลลิกรัม
15. Inorganic sulphate ปริมาณ 83.00 มิลลิกรัม
16. Inorganic phosphate ปริมาณ 127.00 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ยังมีสารอื่นๆ อีก ซึ่งมีดังนี้
1. เอนไซม์ ได้แก่
1.1 Amylase(diastase)
1.2 Lactic dyhydrogenate(LDH)
1.3 Leucine amino-peptdase(LAP)
1.4 Urokinase เป็นสารละลายลิ่มเลือด รักษาเส้นเลือดอุดตัน
2. ฮอร์โมน ได้แก่
2.1 Catecholamines
2.2 17-Catosteroids
2.3 Hydroxysteroids
2.4 Erytropoietine สารกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดง
2.5 Adenylate cyclase ประสานการทำงานฮอรโมนหลายชนิดในร่างกาย โดยผ่านการทำงานของสาร cyclic AMP
2.6 Prostaglandin เป็นสารประจำถิ่นในเนื้อเยื่อหลายชนิด ควบคุมการอักเสบ การรับรู้ความปวด การจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยการทำงานของมดลูก
3. ฮอรโมนเพศ ช่วยสร้างความกระชุ่มกระชวย ผิวพรรณดี ลดรอยย่นและความหย่อนยาน สร้างสุขภาพจิตที่ดี ลดคลอเรสเตอรอลในเลือด ป้องกันกระดูกผุ
4. อินซูลิน คนที่เป็นเบาหวานจะได้อินซูลินเข้าไปช่วยเสริมสร้างการเจริญอาหาร
5. Melatonin พบในปัสสาวะตอนเช้า สารนี้ช่วยให้จิตใจสงบ ลดความกระวนกระวาย หลับสบาย
แต่นักวิจัยยังเชื่อว่ายังมีสารอื่นอีกที่ยังไม่รู้จักอีกมาก จากการทดลองวิจัยของ น.พ.ธรรมาธิกรี รัฐมหาราษฎร์ ประเทศอินเดีย ได้ทดลองให้ผู้ป่วยดื่มน้ำปัสสาวะของตนเอง 200 คน ได้ข้อสรุปดังนี้
1. เซลล์ร่างกายสามารถรับออกซิเจนได้มากขึ้น อัตราการเผาผลาญในร่างกายสูงขึ้น
2. ช่วยให้ร่างกายช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงมากขึ้นในผู้ป่วยทุกราย ปริมาณฮีโมโกลบินในเลือดสูงขึ้น
ที่มา: โดย น.พ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล
แนะนำข้อมูลเพิ่มเติม
- ประโยชน์น้ำปัสสาวะ ตอนที่ 1/7 โดย อ.หมอเขียว
- ประโยชน์น้ำปัสสาวะ ตอนที่ 2/7 โดย อ.หมอเขียว
- ประโยชน์น้ำปัสสาวะ ตอนที่ 3/7 โดย อ.หมอเขียว
- ประโยชน์น้ำปัสสาวะ ตอนที่ 4/7 โดย อ.หมอเขียว
- ประโยชน์น้ำปัสสาวะ ตอนที่ 5/7 โดย อ.หมอเขียว
- ประโยชน์น้ำปัสสาวะ ตอนที่ 6/7 โดย อ.หมอเขียว
- ประโยชน์น้ำปัสสาวะ ตอนที่ 7/7 โดย อ.หมอเขียว