การใช้น้ำปัสสาวะ รักษาแผลฝีหนอง : หมายขวัญพุทธ กล้าจน
กรณีศึกษา แผลฝีหนอง : หมายขวัญพุทธ กล้าจน
ขอเริ่มเลยแล้วกันนะคะ ก็อย่างที่ทุกคนทราบนะคะ หมายขวัญพุทธจะเป็นคนที่เหมือนแข็งแรงจริงค่ะ ปกติเพื่อนๆ จะเวียนกันป่วยนะคะ แต่หมายไม่ค่อยป่วย หรือเราอาจจะ เราคิดว่าเราดูแลตัวเองดีนะคะ ทีนี้เรามาเริ่มดีกว่า แล้วว่าทำไมอยู่ดีๆนะคะ ขามันถึงบวมฉึ่งขนาดนั้นนะคะ เพราะว่า ตกใจอยู่ว่าเอ๊ะ!!! ทำไมเราไม่เป็นอยู่ดีมันมายังไง ขอภาพหน่อย
ขอเกริ่นนิดนึงนะคะ ว่าทำไมถึง เราถึงมีอาการแบบนั้นเนื่องจากว่า ตอนนั้นนะคะ ก็ได้ไปรับเอาภาระ อยู่ที่ ศาลีอโศกนะคะ ซึ่งเราก็ดูแลตั้งแต่ค่าย ก่อนจะมีค่าย จนถึงค่ายเสร็จนะคะ เราก็มีภาระต่อเนื่อง ที่จะต้องดูเรื่องเกี่ยวกับ การวัดน้ำ ซึ่งอาจารย์ท่านได้ไปสร้างบารายแล้วก็ทำธนาคารน้ำที่ไพสาลี เพราะช่วงนั้นบอกตรงๆ ว่าแล้วมาก แล้วก็เก็บน้ำไม่ได้เลย อาจารย์ก็เลย คิดว่า ถ้าทำธนาคารน้ำ ที่ สาลี เพราะที่นครสวรรค์ เป็นดินที่ ดินดานที่ทั้งเหนี่ยวแล้วก็แข็งนะคะ เหมือนกันเก็บน้ำไม่ดีท่านก็เลยสร้างมีดำริสร้างบาลาย แล้วก็มีงานต่อเนื่องที่ตัวเองจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งปกติตัวเองเนี่ยนะคะ เป็นมัคคุเทศน์เนี่ย การทำงานเนี่ย จะ เป็นเชิงระบบนิดนึงนะคะ เพราะว่าตั้งแต่รับผิดชอบมาเนี่ย เราจะเป็นตัวเชื่อมนะคะ แต่ละหน่วย ๆ ตัวเองจะรับรู้ทั้งหมดแล้วก็เชื่อมงาน เชื่อมงาน เชื่อมงาน ดังนั้นการมาทำที่ ศาลีก็เช่นกัน ก็เป็นตัวเชื่อม ดังนั้นงาน งานนึงเนี่ย หมายไม่ได้ทำงานเดียวนะคะ ก็คือ ตัวเองนอกจากจะไปวัดน้ำ ดูการไหลเวียนของน้ำว่า การเดินน้ำของระบบใต้ดินเป็นยังไง และขนาดเดียวกันก็ไปดูช่างด้วย ช่างที่เขาไปขุดบ่อบาดาล ค่ะ ที่ศาสีมีถึง 4 บ่อนะคะ จากนั้นเราก็ไปดูที่สระเด็ก ที่เขาทำเป็นภูมิทัศน์เลยนะ ปลูกต้นไม้ ขนหินอีก เราก็ขับจักรยาน ยังไม่บอกว่าเพราะอะไร เราก็ไปอีกนะคะ จากนั้นก็มาที่ศาลา มาฟังธรรม คือมันเป็นจุดเยอะค่ะ ดังนั้นตัวเองก็มีจักรยานอยู่คนนึง จักรยานนะคะ โอ้โห ดั่งใจเลย จักรยานนี่ใช้มาตลอดด้วยตัวเองที่คิดว่า นี่แหละ เป็นอุปกรณ์ของเราในการขับเคลื่อนทำงานนะคะ พอได้จักรยาน ไม่ไหวแล้วค่ะ พอเจอปุ๊บเนี่ย ปั่นอย่างกับนักขี่จักรยานทีชาติค่ะ คือปั่นอย่างเร็วเลยนะคะ ไม่ได้ปั่นอย่างเอ้อระเหยนะคะ แต่ระจุดปั่นแบบโอ้โห คือปั่นแล้วมันได้ดั่งใจ จบงานนี้ก็ไปต่องานนี้
วันที่ 4 นะคะ สิงหา เกิดอาการ มันปวด โอ๊ย ขึ้นมาเลย ครั้งแรกรู้สึก เอ๊ เกิดอะไรขึ้น จากนั้นปุ๊บ ก็ลงเดินลงไปเพื่อที่จะ ย่อตัวลงไปเพื่อที่จะวัดน้ำ ตรงนั้นหละค่ะ เริ่มละ อาการขาเริ่มผิดปกติแล้ว นะคะ แล้วก็มีอาการหมดแรงนะคะ ปวดอย่างแรง แล้วก็เดินไม่ได้ เดินเป๋ เดินขาเป๋แล้ว จึงตัดสินใจ เข้าพื้นที่ รีบทานอาหาร แล้วก็รีบเข้าที่พัก นะคะ มันยังไม่ถึงที่พักเลยค่ะ มันมีอาการ ขามันไม่มีแรงมันจะไม่ให้เดินแล้วค่ะ แล้วตัวเองรู้สึก อาเจียนอย่างแรงเลย เกิดสภาวะอาเจียนอย่างแรง ปวดหัวแล้วก็มีอาการหนาวข้างในอย่างมาก ตอนนั้นอยู่คนเดียว พี่น้องจิตอาสาเดินทางไปพื้นที่ข้างนอก เพื่อที่จะไปทำภารกิจ ตัวเองอยู่คนเดียวนะคะ อยู่คนเดียว ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะคะ เนี่ยท่านจะเห็นภาพเนี่ย การทำบารายเนี่ย มันน่าตื่นเต้นนะคะ เราก็มุ่งมั่นเลย ช่วยอาจารย์นะคะ คิดว่ามันเป็นงานระดับมวลมนุษยชาตินะคะ ไม่คิดตัวเองว่าจะ มีอาการเกิดขึ้นกับตัวเอง ก็เลยทำให้เราหักโหมเกินไปว่างั้นเถอะค่ะ แล้วก็ใจร้อน ใจเร็วนะคะ ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ แล้วก็คุณหมอก็บอกว่า ตอนหลังมาทราบว่าเป็น ติดกระแสเชื้อ เป็นอะไรหล่ะ กระแสเลือด ติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากว่ามีอาการช๊อคแล้วตัวเองก็ หมดแรง หมดกำลังที่จะทำงานค่ะ แต่ขณะที่อยู่ที่สาลีนะคะ ตอนนั้นเนี่ย ก็มีหมู่มิตรแล้วก็พึ่งตัวเองได้นะคะ ไม่ได้บอกใคร คิดว่าตัวเองดูแลตัวเองได้ พึ่งตัวเองได้ นะคะ แต่พอไปซักระยะหนึ่งเนี่ยนะคะ ก็เดินทางต้องโทรบอกเพื่อนนะคะ บอกว่า ขออนุญาติกลับดอนตาล กลับศูนย์นะคะ เพราะว่าตนเองไม่ไหว แล้วเราไม่มีภูมิปัญญาที่จะดูแลตัวเองนะคะ เดี๋ยวขอก่อนที่จะถึงตรงนี้จะเล่าให้ฟังนิดนึงนะคะ จากที่ตัวเองมีอาการแบบนี้นะคะ เราดูแลไประดับนึงปุ๊บเนี่ย กลางคืนเนี่ยนะคะ มันร้อนมาก นะจริงๆแล้วมันปวดทุกเสี้ยววินาที ปวดแสบปวดร้อนอย่างมากเลย แล้วก็หนาวมาก ขนาดที่เราจะเอาความร้อนออกจากเข่า ขณะเดียวกันข้างในก็หนาวมาก มันทรมานมากนะคะ กลางคืนนี่นอนไม่หลับเลยนะคะ
ดูแลตัวเอง เราก็ใช้ การกินอาหารสูตร 1 นะคะ กินข้าวกับเกลือ นะคะ แล้วก็เอาผ้าเนี่ยชุบ น้ำปัสสาวะ ขณะเดียวกันปัสสาวะ กินตั้งแต่ ชั่วโมงแรกเลย ถ่ายออกมาแล้วก็ดื่มเข้าไปตลอดเวลา น้ำปัสสาวะเนี่ย ต้องขอบอกว่า เป็นยาวิเศษจริงๆ มันช่วยชีวิตตั้งแต่แรกแล้ว ทำให้แผลเนี่ย ค่อยๆยุบแต่ขณะที่ค่อยๆยุบเนี่ย เขาก็จะมีขบวนการของเขาก็คือ มันจะค่อยๆดำด้วย มันอาจจะเกิดจากการไหม้หรือป่าวไม่ทราบนะคะ ดำมากแล้วก็ร้อนมาก กลางคืนเนี่ยบอกตรง ๆ ว่าไม่ได้นอน พยายยามที่จะดูแลตัวเองก็คือ เอาน้ำปัสสาวะนี่แหละค่ะ แล้วก็ ช่วยตัวเองตอนที่แบบว่ามันไม่ไหวแล้วนะ บางทีก็มีเพื่อนนะคะ เอาหินนะคะ ก่อนที่จะเกิดหนอง ขอไปตอนหนองนิดนึงนะคะ ตอนที่เป้นหนอง น้ำหนองไหลเนี่ยนะคะ ตรงนี้นะคะ ก่อนที่น้ำหนองจะไหล วันที่ 20 เนี่ยนะคะ ตอนนั้นก็เอาหินนะคะ ไปแช่น้ำแข็งนะคะ เอาเยล นะคะ แล้วก็ น้ำปัสสาวะ คือทำยังไงให้มันเย็นจัดค่ะ เพื่อจะโปะลงไปที่แผลนะ แต่ขณะที่เรามีอาการปวดแสบปวดร้อนมาก ๆ นะคะ เรามีสภาวะ ทางธรรม ก็คือว่า เราเอ๊ะทำไม ทำไม เราถึงปวดขนาดนี้ ใจก็บอกว่า โอเค เราทำใจไร้ทุกข์ ทำใจไร้ทุกข์ นะ เราต้องวางใจมันเป็นวิบากกรรมนะ อันนี้เราก็รับทราบ เราก็รู้ รู้สึกอยู่ แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้วมันไปไม่ถึงค่ะ ด้วยความที่กลัว มันมีความกลัวอยู่ แต่ตอนนั้น นะคะ ตอนที่ก่อนจะวันที่ 20 เนี่ย มันมีสภาวะที่ว่า เราดูที่ขาของเรานะคะ ว่า จริงๆแล้ว สิ่งที่เราเห็นเนี่ยนะคะ มันเป็นรูปที่ จริงแล้วความเจ็บปวด มากๆ เนี่ย มันเกิดจาก เรามองเข้าไปข้างในก็คือ จิตวิญญาณที่ เป็นกายข้างในที่ความทุกข์ทรมาน จากกิเลส กาม ราคะ โลกธรรมต่างๆของเราเนี่ยค่ะ ที่มันอยู่ข้างในรูปแผลเนี่ยแหละ คือทำให้เรารู้ อ๋อ สิ่งที่เราทำมาเนี่ยก็คือ มันอาจจะโชว์เป็นรูปข้างนอก ว่าเราไม่สบาย ป่วย แต่จริงๆแล้ว จิตของเรามากกว่าที่มันป่วย มันเป็นนามธรรม ที่มันอยู่ข้างใน ทำให้เรา โอ๊ย ยอมแล้ว ๆๆ ๆ ยอมรับแล้ว ไม่ดื้อ ไม่ดื้อแล้ว ไม่ขัดขืน ยอมแต่โดยดี ยอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่เราทำมา ไม่ปฏิเสธการเจ็บป่วย ยอมรับให้ร่างกายของเราเนี่ย พยายามที่จะ ดูแลตัวเขาไปเพราะปกติ ร่างกายมันก็ต้องดูแลตัวเองอยู่แล้ว มันก็ค่อยซ่อมแซมไป จิตของเราต่างหาก ที่เราไปขัด อยากจะให้มันเร็ว อยากจะให้มันหาย ไปเริ่งรีบต่างหาก เรามองเข้าไป เราพึ่งแยกกายจิต อ๋อ จริงๆการแยกกายแยกจิตก็คือการที่กายของเรานี่แหละ ข้างในของมันต่างหาก
สิ่งที่เราทำชั่วร้ายมาแต่อดีต การที่เราเอาแต่ใจตัวเอง อัตตา ความเร่งรีบ เร่งผลเนี่ย มันออกมาในรูปของ กิเลสต่างๆ ที่ออกมาในรูปที่เราเห็นในรูปลักษณะเป็นรูปธรรม แต่จริงๆแล้วข้างในของเรานั่นแหละที่เราเห็นความเป็นตัวตนของมัน เป็นกายที่เราชัดเลย อ๋อ มันเป็นสิ่งของเราต้องยอมรับ มันเป็นสมบัติของเรา มันเป็นสิ่งที่เราทำมา ฉันยอมแล้ว ฉันยอมรับแล้วว่าเป็นขอองฉันจริงๆ ตรงนั้นแหละค่ะ มันก็เพลียหลับไป มันถอยหลับไป พอตื่นเช้ามา มันน้ำนม มันไหลทะลักออกมาจากเข่าเลยค่ะ มันรู้สึก ตอนแรกก็คลำๆเอ๊ะ!!! ทำไมมันเหลวๆเละๆนะ เอ้า น้ำหนองเต็มเลย มันไหลแล้วมันยุบเร็วมากเลยนะคะ จากสิ่งที่เรายอมรับความจริงค่ะ จริงๆแล้ว สิ่งที่เราทำมา คือหมายปกติตอนเด็กก็เป็นคนไม่ซนนะ ไม่ค่อยมีวิบากเรื่องกรรมอะไรนัก เพราะว่าเป็นเด็กกรุงเทพ ไม่ซนแล้วก็ไม่ค่อยจะไปผจญภัยเกี่ยวกับความชั่วเกี่ยวกับทางด้านกามอะไรมากนะแต่สิ่งที่เป็นอัตตาถ้าเรายึดดีต่างหากหละคะ หมายเป็นคนยึดดี แล้วก็คิดว่าตัวเองก็ทำดีมาตลอด เวลาอาจารย์ให้นโยบายอะไรมาปุ๊บเนี่ย เรามีความเพียรของเราเป็นสิ่งที่เราติดตัวมาแล้วก็เราเพียรในการที่จะ รู้ตื่นอยู่เสมอ ดังนั้น สิ่งนี้ต่างหากหละที่หมายไม่ได้ประมาณค่ะ พอไม่ได้ประมาณปุ๊บมันก็เกิดสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างที่ แอคซิเดนเนี่ย ทำให้เรา เกิดโรคเกิดภัยขึ้นมาแล้วเราก็ยอมรับผิดนะคะ จากนั้นแผลมันก็ค่อยยุบลงจริงๆเร็วมาก จากที่มันร้อนเป็นไฟจริงๆ มันไม่เคยเจ็บป่วยอย่างงี้มาก่อนในชีวิต แล้วมันก็ยุบแบบนี้เลย ยุบเป็นแผลเลย จากน้ำหนองไหลเนี่ย หมายเช็ดไม่ทันเลยนะ ผ้ากี่ผืนกี่ผืน เต็มไปหมดเลย น้ำเหลืองไหลเนี่ยค่ะ แล้วสังเกตุดูนะคะ มันค่อยๆยุบเป็นตามลำดับอยู่แล้ว จะแดงและดำมากเลย มันไหม้ค่ะ ก็ตัวเองก็รู้สึกว่าดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ก็ไม่หมายความว่ามันหายป่วยนะ ตอนกลางคืนก็ยังเจ็บอยู่ ดังนั้นทุกคือ หมายแทบไม่ได้นอนเลย มีมดเป็นเพื่อนอีก มาอาศัยกินน้ำเหลืองน้ำหนองของเรา ตอนแรกก็บอกฉันก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว ไอ้เราก็มอง เราทำเขามาเยอะนะ ก็แบ่งกันหน่อยไม่ได้หรือไง เรานึกในใจแบ่งเขาหน่อยสิ น้ำเหลืองน้ำหนอง ให้มันหน่อยก็ได้ มันก็มาทุกคืนเลยนะ คืนละหลายรอบ เราเผลอนิดนึงเขาก็มา แต่ถ้าเราเฝ้าดูเขาเขาไม่มานะ มดเนี่ย ที่ดอนตาลมดเยอะ แต่ที่นี่ไม่มีนะคะ เราก็ให้น้ำหนองน้ำเหลืองเขากินไปแล้วก็ไหลตลอดเวลา แผลเนี่ยนะคะ ขอบอกว่า ตอนแรกที่มันมีแผลเล็กๆเนี่ย มันไม่ไหลนะ เออเราก็มาดูเราก็พิสูจน์เป้นนักวิทยาศาสตร์ อยู่ดีๆมันเป็นเหมือนบ่อลมเลย เหมือนอาจารย์สอนบ่อบาดาลเลย เฮ้ยทีแรกมันเป็นบ่อลม เสร็จแล้วซักแป๊ปมันก็มีอีกบ่อนึงที่โผล่ขึ้นมา น้ำมันไหลกระฉูดเลย เหมือนบ่อ เหมือนกระป๋องนมเลย อีกอันบ่อลมอีกอันก็ไหลกระฉูดเลย เลยนั่งคุยกับเพื่อนๆนะ เออ นี่จริงๆแล้วเนี่ย เราได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ได้เรียนรู้นะคะ นอกจากที่จะได้ตรงนี้แล้ว หมายก็ได้สภาวะที่ว่า ตอนเราป่วยเนี่ยนะ น้ำปัสสาวะ น้ำเยี่ยวเนี่ยอร่อยที่สุดในโลกเลย อร๊อยยยอร่อย ไม่เคยกินอร่อยกว่านี้มาก่อนเลยนะ
กินเอา กินเอานะ เวลาเราจะเอาไป เช็ดเนี่ยนะ บางทีก็เสียดายนะ เพราะว่ามันร้อนมากเราก็ไม่กินนะ พอเราโปะจนน้ำปัสสาวะมันร้อนมากเลย เพราะมันเอาพิษออกมา กินมันก็ต้องแบ่งกินแล้วก็แบ่งล้างด้วย โหเราต้องประหยัดเซพมากเลย ขณะเดียวกันนะ เราก็มาดูเรื่องอาหารนะ ทำไมตอนไม่ป่วย ทำไมอาหารมันอร๊อยอร่อย แต่พอป่วยนะ ไม่เห็นมันจะอร่อยเลย แล้วก็กินก็ไม่เยอะนะ เราก็มองว่าทำไมเราตะกละตะกลามขนาดนั้นนะ กินก็น้อยนิดเดียวนะ แล้วก็เคี้ยวต้องละเอียดนะ เพราะว่า เรารู้ว่าเราเลว ไม่ดีใช่ไหม มันติดเป็นสักกายะ เราต้องเคี้ยว ช้าๆนะ เคี้ยวให้ละเอียดนะ พอเคี้ยวช้า เคี้ยวละเอียด กินไม่ต้องเยอะมันก็อยู่ได้ แล้วไม่ได้กินด้วยความอร่อย มันก็ได้สภาวะ เนี่ย อาหารเนี่ย แรกๆเนี่ย 15 20 วันแรกเนี่ยกินเป็นสูตร 1 เลยนะคะ กินอย่างสุขภาพเลย กินข้าวกับเกลือ กินข้าวต้ม แล้วพอมาปลายๆนี่ เพื่อนๆเขาก็มีอาหารสูตร 2 เริ่มมีปรุงละ เราก็มองละ เออ เอาสะหน่อย เพราะว่าตัวเองได้ตั้งอธิศีลว่า เราจะทำตามหมู่มิตรดี จะไม่คิดเอง เพื่อนว่าอะไรว่าตามเพื่อนเพราะเรามั่นใจแล้วเพื่อนที่เดินมาแต่ละคน ท่านก็มีเจตนาดีเนอะ จิตวิญญาณที่บริสุทธ์ของท่านแต่ละคนเอามาให้นี่มันบริสุทธิ์อยู่แล้ว หมายคิดว่า การที่เราจะหายว่า แต่ละจุดแต่ละกาละ ของเราเนี่ย เกิดจากหมู่มิตรดี ที่ค่อยๆทยอยเอามาให้เรา ท่านว่าอะไรว่าตามเพื่อนเพราะเรามั่นใจว่าเพื่อนให้แต่สิ่งดี ตรงนี้ค่ะ เราศรัทธาหมู่มิตรดีจนเราเคยพูดกับน้องเพียร เพียรเชื่อมั๊ย ป้าหมายเคารพหมู่มิตรดีเหมือนแม่เลย อาจารย์หมอเหมือนคุณพ่อ หมู่มิตรดี เหมือนแม่เลย ที่คอยประคบประหงเรา ดูแลเราอย่างดี ป้าหมาย รักและศรัทธา กราบได้วันละเป็นร้อย ว่างงั้นเถอะ คือเราศรัทธาจริงๆ เรารู้ชัดแล้วว่า สิ่งที่เราอยู่ได้ จากกการที่เรามีหมู่มิตรดี เรารู้จักปรับสมดุลตัวเอง แล้วก็ขณะเดียวกันเราพึ่งตนเองได้ จะขี้จะเยี่ยวไรเนี่ยหมายไปเองนะ เดินไปเองได้เลย ช่วงนี้ขออธิบายนิดนึงนะคะ ช่วงที่หมายพอจะหายแล้วเนี่ย ปกติเวลาจะนอนเนี่ยเราจะยกเข่าขึ้นใช่ไหมคะ แต่พอระยะนึงปุ๊บนึงเนี่ย เราเริ่มที่จะยืดขาออกไป พอยืดออกไปปุ๊บเนี่ยนนะคะ มันมีอาการผิดปกติค่ะ เลือดไหลนะคะ แล้วช่วงที่เรานั่งรถเข็น เลือดทะลักออกมาเยอะมากเลย เลือดล้วนๆนะคะ อันนี้ก็ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร อาจจะถามคุณหมอนะคะ ขณะเดียวกัน น้ำหนอง น้ำเลือด ไหลตลอดเวลาอยู่แล้ว จากรูประบาย ไหลไม่หยุด มีมดมากินตลอดเวลา มันไหลของมันเรื่อยทั้งวัน แต่อยู่ดีๆนะ ช่วงที่เราเอาขาลงนะคะ แล้วทีนี้เลือดมันทะลักออกมา
เขาเรียกว่าเป็นลิตรก็ได้ ถ้าเราเดา มันเยอะมาก หมั่นเช็ดๆ โฮ้ เหนื่อย พอเหนื่อยเรายกขากลับ ใจมันหวิวๆนิดๆ มันเหนื่อยกับการเช็ดเลือด เราก็เลยพัก ในขณะเดียวกัน เข่าก็ร้อนจี๋เป็นไฟเลยนะ เราก็เอาผ้าเนี่ย ชุบน้ำปัสสาวะ โปะตลอดเวลา ถือว่าปัสสาวะเนี่ย สุดยอดจริงๆ ช่วยชีวิตเราจริงๆ เราไม่คิด ไม่เห็นคุณค่า เพราะได้ครั้งนี้ในชีวิต อร่อยก็อร่อย คืออร่อยนี่ไม่ได้มีรสชาติ แต่มันกินแล้วมันสดชื่น มันช่วยชีวิตได้ แล้วช่วงกินข้าวนี่นะ บางที ตอนแรกเรากินสองมือ พอเราบอกเราจะขอกินมื้อเดียว เราก็เอาปัสสาวะเรากินแทนข้าวได้อีก ดังนั้นปัสสาวะ มีค่ามาก นี่ดูสิคะ ขนาดกินข้าวอยู่นะคะ กินข้าวอยู่น้ำเหลืองกินข้าวเคล้าน้ำเหลืองเลยนะคะ น้ำเหลืองไหลเยอะ ก็ต้องเปลี่ยนอิริยาบท มาเอามาล้างแผล กินข้าวคายเลยนะคะ คือสภาวะที่จะบอกว่า เราไม่มีการรังเกียจในน้ำเหลือเราเลย เรารู้ว่าน้ำเหลืองคือสิ่งที่มันดีที่มันให้กับเราแล้วให้อาหารมดด้วย มดกินได้ด้วย คือเรามีความสุข เราวางใจ งานทุกงานตัดหมดเลย งานวิจัยไม่เอา อะไรไม่เอา เพื่อนฟังอาจารย์หมอประชุม อปริหานิยธรรม ไม่เอา เขามีการปาวารณา ไม่ไป คือเราตัดทุกอย่างเลย เราตัดได้ เราไม่กังวล อะไรเลย เราคิดว่ามันยังไม่ใช่รอบของเรา แล้วแต่เราก็อยู่ได้ หมู่มิตรก็เวียนกันมาเหมือนเวียนเทียนเลย มาให้ธรรมะสลับกัน 20 กว่าคนได้เวียนกันมา แม่ถนอม บอกว่า เติ้ลเชื่อไหม ตอนรู้ว่าเติ้ลป่วย ใครๆก็ลือกันว่าป่วยมาก แม่ไม่กล้ามา กลัวแม่จะทำใจไม่ได้ แม่บอก ว่าแม่จะต้องติดตาติดใจแน่เลย เห็นคนลือมาบอกว่าเติ้ลหายแล้ว แม่ก็เดินขึ้นมาคุยกับหมาย 2 ชั่วโมง หมายกินข้าวอยู่หมายก็ต้องยังไม่กิน ก็คุยกับแม่ แม่ก็นั่งคุยไป แม่ก็เมตตามาก ขึ้นมาหาเราที่พัก ก็ขอบอกว่า เรารู้สึกได้เลยว่า สิ่งที่เราได้รับเนี่ยนะ โอเคเรารู้วิบากกรรมแต่เราก็จะมีกุศลกับอกุศล อกุศลเราก็ได้รับละ เรารู้ละ เกิดจา อัตตา ราคะ กาม โลกธรรมของเรานั่นแหละ ที่มันสอนให้เราเห็น เราอย่าประมาท ส่วนขนาดเดียวกัน สิ่งที่เราเป็นกุศลก็คือหมู่มิตรดี เจออาจารย์ท่านที่เมตตาให้พี่หมายกลับบ้าน บอกว่าไปรับได้เลย ไม่งั้นก็นอนแกว่งอยู่ หมดแรงอยู่ที่โน่นไม่มีแรงแล้ว มาอยู่ที่นั้น ได้พลังเพื่อน เดินได้ ดูซิคะ เดินได้วันที่ 26-27 ก็เริ่มเดินแล้วค่ะ อันนี้คือเดินได้ก่อนที่อาจารย์หมอจะรวมพลนะคะ พอวันที่ 28 อาจารย์หมอรวมบอก รวมพลเท่านั้นแหละ หมายใจแป้วเลย ตายแล้วหมู่ให้ไปไหมเนี่ย จะไปด้วย จะไปด้วย เหมือนเด็ก จะไปด้วย ทำไงวะ บอกอากิมคะ หมายช่วยขออนุญาตเข้าที่ประชุมว่า หมายพอเดินได้แล้วให้หมายไปด้วยได้ไหม อากิมบอกไม่ได้อยู่ที่หมู่ อยู่ที่เธอ พร้อมไหม อัตตกิลมถะเกินไปไหม มันไปไหวไหม เพราะเธอพึ่งเดินได้ หมายบอกหมายเดินได้แล้วก็หัดเดิน จากที่รู้ว่าเดินได้เพราะหมุ่นั่นแหละไม่ได้เดินเอง เราเกาะเพื่อนมาตลอดเลยชีวิตนี้ ก็เลยได้มาวันนี้ค่ะ ก็คือจะบอกว่าสิ่งที่หมายได้ นอกจากสิ่งที่เราได้รู้ ได้ระลึกถึงอดีต ที่เราแยกแยะว่าอ่อ แท้เราติดอะไรมา แล้วก็สิ่งที่ชัดเจนก็คือ การที่เราได้วาง ได้วางค่ะ เสนอดีแล้ววางดี หมายรู้หมายติดดี จริงๆค่ะ ติดดีแล้วคิดว่าดี แต่ดีนั้นจริงๆแล้ว ถ้าเราติดแล้วเราไม่วาง มันก็จะไม่ดี มันก็จะเป็นสิ่งที่มันสิ่งที่เลว ก็เลยคิดว่า ตรงนี้ละหมายก็เลยคิดว่า 1 เคยคิดในใจนะว่า ถ้าหมายเรียนหนังสือไม่ได้ จะบอกอาจารย์หมอว่าเราจะไม่เรียนปอเอกละ เราไม่เรียนก็ได้ เราวางได้ ตั้งใจเลยนะวะ ถ้ามันไม่สามารถเรียนได้ ก็จะวาง แล้วก็ถ้าเราขาเรา พิการ อาจารย์ก็ให้กำลังใจพี่น้อง ให้กำลังใจว่า พี่หมายไม่ได้มีแต่ขานะ พี่หมายมี
สมอง มีมือ มีความคิด พี่หมายก็สามารถเอาตรงนั้นช่วยเพื่อน ช่วยมวลมนุษย์ได้ ทำให้มีกำลังใจด้วยตรงนั้น ก็ทำให้เราดีขึ้นเป็นลำดับๆนะคะ ก็คงจะประมาณนี้มั๊ง มีอะไรมั๊ยคะ เพราะหมายก็นึกไม่ค่อยออกไม่มีค่ะ ชัดเจนค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะคะ เชื่อว่าท่านที่เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านก็เห็นประโยชน์ของการที่เริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้นะคะ อยู่คบแลเคารพมิตรดี ร่วมกันนะคะ เมื่อเกิดปัญหาสุขภาพ หรืออะไรต่างๆนะคะ ก็ไม่เกิดวิวาทะกัน ไม่เบียดเบียนกันนะคะ ศรัทธา ศรัทธาในทุกอย่างที่เพื่อนนะคะ เพื่อนนำเสนอเพราะเชื่อ เคารพ ศรัทธาในเพื่อนว่าจะให้แต่สิ่งดีๆกำเรานะคะ และ ก็เป็นส่วนหนึ่งนะคะ ที่ร่วมกับการพิจารณากรรมเห็นกรรมของตนเอง พอยอมรับนะคะ ช่วงแรกที่คุณหมายขวัญพุทธนี่เหมือนกับว่า เริ่มเป็นวันที่ 4 ถึงวันที่ 20 เนี่ย อาการก็คือ ใช้ปัสสาวะ ร่วมกับอาหารนะคะ ก็ลดลงนะคะ แต่มันไม่เร็ว พอปุ๊บวันที่ 10 เหมือนเกิดสภาวะธรรมอะไรภายใน ทบทวนชัดว่าเกิดจากกรรมที่เรา ใจร้อน เราอะไรนะคะ เอ่อ มีอัตตานะคะ ติดดีในงานนะคะ อยากทำงานเพื่อมวลมนุษยชาตินะคะ ก็เลยเกิดอันนี้ พอยอมรับปุ๊บนะคะ อัตตราเร่งเกิดค่ะ กายหายนะคะ ก็อย่างที่คุณหมายขวัญพุทธเล่าให้ฟังนะคะ ก็นะคะ เป็นกำลังใจให้จริงๆ ให้คนฟังจริงๆค่ะ ว่า แนวทางที่เราใช้ชีวิตประจำวันอยู่อย่างนี้ค่ะ จะเป็นส่วนนึงที่จะช่วย คือการที่เราปฏิบัติตัวที่ไม่ประมาทค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
จากการถอดเทป การเสวนา งาน 25 ปี วิชชาการการแพทย์วิถีพุทธเพื่อมวลมนุษยชาติ