การใช้น้ำปัสสาวะกับตัวเองและสัตว์เลี้ยง : แหม่ม สมุทรปราการ

จากการไปเข้าค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรมครั้งแรกเมื่อสิงหาคม ปี2552 ที่สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร โดยท่านอาจารย์หมอเขียว ดร.ใจเพชร กล้าจน ได้บรรยายเทคนิด 9 ข้อ หรือยา 9 เม็ด รวมถึงเรื่องนัำปัสสาวะด้วยว่ามีสรรพคุณ ประโยชน์ และวิธีการใช้น้ำปัสสาวะอย่างไร

ณ ตอนนั้นตัวแหม่มเองรู้สึกรังเกียจและไม่ได้ลองใช้น้ำปัสสาวะ เพราะเคยได้ยินมาว่าเป็นน้ำสกปรกที่ร่างกายขับของเสียออก

แต่เมื่อได้ฟังท่านอาจารย์หมอเขียว บรรยายถึงสรรพคุณ และประโยชน์ต่างๆ ของน้ำปัสสาวะบ่อยๆแล้ว ก็ทำให้นึกอยากลองใช้ โดยใช้นิ้วจิ้มชินดู ซึ่งตอนนั้นเค็มมาก พออีกวันก็ชิมดูอีก รสชาติดีขึ้นมาก มีรสจืดและหอมเหมือนชา ผลจากการรับประทานอาหารในค่ายสุขภาพ ก็เลยทำให้ดื่มน้ำปัสสาวะได้ง่ายหลังจากนั้นจนปัจจุบันก็ได้นำวิธีการต่างๆมาปฏิบัติกับตัวเอง ทุกวัน

โดยการหยอดหู หยอดตา ล้างหน้า แปรงฟัน พอกหน้า (โดยผสมกับดินสอพอง ผงถ่าน น้ำปัสสาวะ) แช่มือแช่เท้า สระผม อาบน้ำ โดยใช้ผ้าขนหนูขัดถู รักษาแผลที่เกิดจากมีดบาด หรือโดนแมลงสัตว์กัดต่อย หรืออาการแพ้สมุนไพรบางตัวเช่นหญ้าม้า ว่านกาบหอย จะมีอาการผื่นขึ้นคันมาก ลักษณะเหมือนลมพิษ แต่เมื่อได้ทาน้ำปัสสาวะแล้ว อาการต่างๆก็ดีขึ้นและหายทุกครั้ง

นอกจากนั้นแหม่ม ยังใช้น้ำปัสสาวะในการสวนล้างช่องคลอด และสวนล้างลำไส้ใหญ่ (ถ้ามีน้ำปัสสาวะน้อยก็ผสมน้ำสะอาด) ชอบตรงที่ว่า น้ำปัสสาวะสามารถปรับอุณหภูมิ ตามสภาวะร่างกายของเราเอง โดยไม่ต้องคำนึงว่า ณ ตอนนี้ร่างกายเราร้อนหรือเย็น ซึ่งเรานำมาใช้ได้เลย

น้ำปัสสาวะใช้กับสัตว์เลี้ยง (สุนัข) กุดชี่ มีแผลที่อวัยวะเพศ บวม แดง แหม่มเลยใช้น้ำปัสสาวะแช่แผลเช้า เย็น และให้ดื่มน้ำปัสสาวะด้วย(ปกติก็ดื่มบ่อย) อาการต่างๆเริ่มดีขึ้น ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็หายเป็นปกติ

น้ำปัสสาวะใช้กับพืช เราสามารถใช้น้ำปัสสาวะเป็นปุ๋ยบำรุงพืชและดินได้ โดยผสมกับน้ำเปล่าใช้รดผักและสมุนไพรที่ปลูก ผักจะขึ้นงามมาก และมีเหตุการณ์หนึ่งคือ ผักอ่อมแซบที่ปลูกไว้ที่ระเบียงหน้าบ้านชั้นบน หลังจากที่แหม่มไปต่างจังหวัดไม่อยู่บ้านประมาณ 1 อาทิตย์กลับมาเห็นต้นผักอ่อนแซบแห้ง และมีบางส่วนตาย แหม่มจึงใช้น้ำปัสสาวะผสมน้ำรดเช้า-เย็นทุกวัน ประมาณหนึ่งอาทิตย์ เขาก็ค่อยๆฟื้น และกลับมาอยู่ในสภาพปกติ