ความรู้เรื่องน้ำปัสสาวะและส่วนประกอบของน้ำปัสสาวะ: นิตยาภรณ์ สุระสาย
ในค่ายสุขภาพและพระไตรปิฎก ณ สวนป่านาบุญ9 ต.สระกระโจม อ. ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี วันที่ 8 กรกฎาคม 2562
มีการบรรยายเรื่องน้ำปัสสาวะบำบัด โดยจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม คุณนิตยาภรณ์ สุระสาย
มีการใช้น้ำปัสสาวะกันทั่วโลกทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีการเผยแพร่เรื่องน้ำปัสสาวะบำบัดกันมานานแล้ว ในพระไตรปิฎกมีการกล่าวถึงการใช้น้ำปัสสาวะในพระวินัย พระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ให้แช่น้ำมูตรกับผลลูกสมอเพื่อแก้โรคต่างๆ นั่นคือยาที่พระภิกษุใช้ในการบำบัดโรค
ดังนั้น มีการใช้น้ำปัสสาวะบำบัดโรค มีมายาวนานกว่า 2,600 ปีที่ผ่านมา และมีการรวบรวมโดยสำนักการแพทย์ทางเลือก พบว่ามีการใช้น้ำปัสสาวะในที่อื่นๆอาทิ
ในคัมภีร์พระเวทย์ของฮินดู 1,000 ปีก่อนคริสตศักราช มีการบันทึกไว้ว่า น้ำปัสสาวะเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ เป็นน้ำอมฤต
ในตำราการแพทย์แผนจีน พ.ศ. 586-754 อ้างว่า น้ำปัสสาวะเป็นตัวละลายยาสมุนไพร ช่วยทำให้สมุนไพรมีสรรพคุณดียิ่งขึ้น
โรมัน พ.ศ. 600 ตำราว่าด้วยปัสสาวะ แต่งโดยปรินุส นักปราชญ์ กล่าวไว้ว่า น้ำปัสสาวะเป็นยารักษาพิษต่างๆและใช้ประโยชน์ในการฟอกหนัง ย้อมสีผ้า
ประเทศญี่ปุ่นในยุคอิมเป็ง พ.ศ.1782-1832 มีการดื่มน้ำปัสสาวะในการรักษาโรค มีน.พ.เรียวอิจิ นากาโอะ เป็นบุคคลสำคัญที่ริเริ่มเผยแพร่ให้คนดื่มน้ำปัสสาวะในประเทศญี่ปุ่น มีการแนะนำน้ำปัสสาวะสำหรับผู้ป่วยที่ยากจน สามารถชุบชีวิตสำหรับคนที่ไม่มีเงินในการรักษาโรคได้
ประเทศอังกฤษ มีนายแพทย์ชื่อ แซลมอน ได้พิมพ์ตำราแพทย์ในปี ค.ศ. 1695 ตำราชื่อ Salmon’s English Physician โดยได้ระบุถึงการใช้น้ำปัสสาวะในการรักษาแผลและรักษาอาการเจ็บป่วยอย่างอื่นได้
โยคีและพระลามะในธิเบต ก็ดื่มน้ำปัสสาวะเพื่อให้อายุยืนยาว ประเทศอินเดียก็มีการใช้น้ำปัสสาวะในการบำบัดโรคและดื่มเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพด้วย
จริงๆแล้ว เราเคยทานน้ำปัสสาวะมาแล้ว ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
ในน้ำปัสสาวะ 100 cc มี น้ำสะอาด 95% หรือ 95 cc,ยูเรีย 2.5% กลิ่นน้ำปัสสาวะที่เราได้กลิ่น เป็นกลิ่นของยูเรียนี่เอง หากใครยังรับประทานเนื้อสัตว์ ก็จะมีกลิ่นของยูเรียที่รุนแรง และส่วนประกอบอื่นๆอีก 2.5% ประกอบด้วยสารต่างๆ โปรตีน น้ำตาล ฮอร์โมน เอ็นไซม์ต่างๆหรือสารต้านทานโรคอื่นๆ รวมทั้งธาตุอื่นๆที่นักวิจัยยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้
ยูเรีย (Urea)
มีส่วนประกอบในครีมบำรุงผิว รักษาผิวหนังคนไข้ที่ถูกเคมีและรังสี เพื่อบรรเทาอาการผิวไหม้, ในยาขับปัสสาวะ Ureaphil, ยาฮอร์โมนเสริมสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน Premarin ก็มียูเรียเป็นส่วนประกอบเช่นกัน
รวมทั้งเครื่องสำอางค์ราคาแพงๆ ก็ยังมียูเรียเป็นส่วนประกอบด้วย มีสรรพคุณทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น
ยูโรไคเนส (Urokinase)
เป็นเอ็นไซม์ช่วยละลายลิ่มเลือด ป้องกันคนไข้ที่มีภาวะเส้นเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันช่วยทำให้เลือดไม่แข็งตัว โดยบริษัทค้ายาจะไปตั้งห้องน้ำสาธารณะตามจุดต่างๆ ดักเก็บน้ำปัสสาวะ น้ำปัสสาวะ 40ล้านแกลลอน สามารถสกัดสารยูโรไคเนสได้ 40 แกลลอน
การที่เราดื่มน้ำปัสสาวะกลับเข้าไป จะเป็นประโยชน์ในการละลายลิ่มเลือดเช่นเดียวกัน
อิริโทรพอยติน (Erythropoietin)
เป็นสารกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ผู้ที่ดื่มน้ำปัสสาวะเป็นประจำ สามารถเพิ่มค่าเม็ดเลือดแดงได้และช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ คุณหมอที่ประเทศอินเดียใช้น้ำปัสสาวะรักษาผู้ป่วยโรคโลหิตจางและพบว่า สามารถเพิ่มเม็ดเลือดแดงได้จริง
โพรสทาแกลนดิน (Prostaglandins)
เป็นสารฮอร์โมนประจำเนื้อเยื่อทุกชนิด ควบคุมการอักเสบ ชะลอความเจ็บปวด เวลาตกต้นไม้ กระแทกแรง ต้านการจับตัวของลิ่มเลือด คนโบราณให้ดื่มน้ำปัสสาวะ
เพื่อลดความเจ็บป่วยและลดการอักเสบ แผลสด แผลเปี่อย ไฟไหม้น้ำร้อนลวก ก็ช่วยได้
อินเตอร์เฟอรอน (Interferon)
เป็นยาที่ใช้ควบคุมไวรัส ช่วยควบคุมระดับภูมิคุ้มกันต้านทานโรค ปัจจุบันมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี-ซีเรื้อรัง รวมทั้งผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง
ฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin Hormone)
ช่วยให้ สงบ ผ่อนคลาย ไร้กังวล พบในน้ำปัสสาวะ เป็นสารที่ร่างกายผลิตตอนกลางคืน และมักจะพบในน้ำปัสสาวะช่วงหลังจากตื่นนอนตอนเช้า
สารเมลาโทนินนี้ มีนักวิจัยชาวออสเตรเลีย พบว่า เมื่อดื่มน้ำปัสสาวะแล้ว จะทำให้เรามีสมาธิ จิตใจสดชื่น อารมณ์ดี แจ่มใส เพราะน้ำปัสสาวะในตอนเช้า มีฮอร์โมนตัวนี้
โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)
เป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต จะพบมาในน้ำปัสสาวะของเด็กมากกว่าของผู้ใหญ่ ในน้ำปัสสาวะผู้ใหญ่ โกรทฮอร์โมนจะไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายเรา
นอกเหนือจากนี้ในน้ำปัสสาวะยังมีแร่ธาตุและสารอาหารอย่าง ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนอินซูลิน แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ทองแดง สังกะสี ไอโอดี เหล็ก โพแทสเซียมและสารอนินทรีย์อื่นๆ
เหล่านี้เป็นสารประกอบในน้ำปัสสาวะในเชิงทฤษฎี ส่วนในทางปฏิบัตินั้น มีจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมและผู้เข้าค่ายสุขภาพและพระไตรปิฎกที่เคยใช้น้ำปัสสาวะ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ต่อไป